มารู้จักขนาดของกระดาษกันดีกว่า

ขนาดกระดาษที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้นมีหลากหลายขนาด ซึ่งขนาดที่ทุกคนใช้กันมากที่สุด คือขนาด A4 ซึ่งเป็นขนาดสามัญ นิยมนำมาทำเป็นหนังสือ รายงาน และเอกสารต่าง ๆ แต่ก่อนที่จะเจาะลึกไปมากกว่านี้ ทุกคนต้องมาทำความรู้จักกับ ISO 216 หรือก็คือมาตรฐานสากลว่าด้วยขนาดกระดาษที่ประเทศส่วนใหญ่นิยมใช้กัน โดยมาตรฐานชนิดนี้ได้กำหนดให้ขนาดของกระดาษแบ่งเป็นชุด A และ ชุด B ค่ะ

หัวข้อทั้งหมด

• มาตรฐาน ISO 216

• ISO 216 Paper Sizes: A0-A10

• ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานของกระดาษ A และ B

มาตรฐาน ISO 216

ISO 216 เป็นมาตรฐานสากลว่าด้วยขนาดกระดาษซึ่งประเทศส่วนใหญ่ใช้กันในปัจจุบัน ยกเว้นแต่สหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นหลัก มาตรฐานนี้กำหนดให้ขนาดของกระดาษเป็นชุด "เอ" และ "บี"

ขนาดกระดาษในมาตรฐานมีอัตราส่วนลักษณะ 1 : √2 อัตราส่วนนี้มีสมบัติเฉพาะคือ เมื่อตัดหรือพับครึ่งตามแนวกว้าง ขนาดกระดาษจะยังคงมีอัตราส่วนเช่นเดิม ขนาดกระดาษของแต่ละหมายเลขก็มีพื้นที่เป็นครึ่งหนึ่งของหมายเลขก่อนหน้านั่นเอง

กระดาษ A

มาตรฐาน ISO 216 กำหนดให้กระดาษ A มีขนาดเริ่มต้นที่ A0 มีพื้นที่ 1 ตารางเมตร ซึ่งเมื่อตัดหรือพับครึ่งด้านที่ยาวที่สุด ก็จะได้กระดาษขนาด A1 จำนวน 2 แผ่น และสามารถแบ่งเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนได้กระดาษขนาด A10 ที่มีขนาดเล็กที่สุด

กระดาษ A0 จำนวน 1 แผ่นใหญ่ จะสามารถตัดแบ่งเป็นกระดาษ A4 ได้มากถึง 16 แผ่น

กระดาษ B

กระดาษซีรีส์ B ใช้หลักการแบ่งกระดาษและใช้อัตราส่วนสัมพันธ์เหมือนกับซีรีส์ A (1:√2) ต่างกันที่กระดาษ B0 มีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาอีกเป็น 1.414 ตารางเมตร

กระดาษชนิด B ไม่นิยมใช้เป็นเอกสาร แต่ใช้เป็นขนาดหน้าตัดของสมุดบันทึก หนังสือ นิตยสาร หรือหนังสือสือพิมพ์

และสาเหตุที่มีการกำหนดให้มีมาตรฐานกระดาษ เนื่องจากขนาดกระดาษในสมัยก่อนมีขนาดที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโรงงานผู้ผลิต และสร้างความสับสนให้กับบรรดาช่างพิมพ์และผู้ใช้งานอย่างมาก จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1922 ระบบเยอรมัน (DIN) ได้เผยแพร่มาตรฐานกระดาษ DIN 476 เป็นครั้งแรก และกระดาษซีรีส์ A จึงเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (ยกเว้นสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก และประเทศในทวีปอเมริกาใต้)

ผู้ที่เสนอให้ใช้อัตราส่วน 1:√2 สำหรับกำหนดขนาดกระดาษ คือ ศาสตราจารย์เกออร์ก คริสตอฟ ลิคเทนเบอร์ก นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน โดยอัตราส่วนดังกล่าวนี้ถูกยกมาพูดถึงครั้งแรกในจดหมายโต้ตอบกับโจฮานน์ เบ็คแมนน์ ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1786

ISO 216 Paper Sizes: A0-A10

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานของกระดาษ A และ B

A0, A1 กระดาษโปสเตอร์, ใช้เขียนแบบแปลนงานช่างวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรม

A1, A2 ใช้เป็นกระดาษฟลิปชาร์ทสำหรับเขียนข้อนำเสนองานและแผนภูมิ

A2, A3 ใช้เป็นกระดาษวาดเขียน, กระดาษสำหรับแผนภูมิและข้อมูลตาราง

A3, B4 ขนาดหนัาหนังสือพิมพ์

A4 ใช้เป็นกระดาษโปสเตอร์, แบบฟอร์ม, นิตยสาร, ใช้สำหรับเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสาร

A5 สมุดฉีก, ใบปลิว, ใบเสร็จรับเงิน

A6 โปสการ์ด

A5, A6, B5, B6 ขนาดหนังสือทั่วไป

A7 นามบัตร

A8, B8 ขนาดไพ่

A10 แสตมป์

คงต้องยกความดีความชอบให้แก่ ศาสตราจารย์เกออร์ก คริสตอฟ ลิคเทนเบอร์ก ผู้เสนอสัดส่วนมาตรฐานของขนาดกระดาษ เพื่อลดความสับสน และในเวลาต่อมาได้ทฤษฎีของท่านก็ได้ปูทางไปสู่ระบบเยอรมัน (DIN) และได้รับการปรับปรุงจนกลายเป็นมาตรฐานสากล ISO 216 ในเวลาต่อมา

ลองคิดดูสิคะว่าถ้าหากไม่มีคำว่า “กระดาษ A4” การไปซื้อกระดาษคงกลายเป็นเรื่องยาก และการสั่งพิมพ์ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็จะยิ่งน่าปวดหัวไม่น้อยเลยทีเดียวเลยใช่มั้ยคะ?

สำหรับท่านใดที่ต้องการสั่งซื้อกระดาษ A4 คุ้มค่า ราคาถูก สุขสวัสดิ์ขอแนะนำกระดาษ A4 Diamond Star กระดาษถ่ายเอกสารขนาด 70 แกรม ที่เหมาะกับงานพิมพ์หลายแบบ สั่งซื้อเลย >> https://shp.ee/see23w5